หมอปลา พาผู้เสียหายแจ้งความแม่หมอหลอกขายสบู่ใช้แล้วรวย 100 ล้าน

หมอปลา พาผู้เสียหายแจ้งความแม่หมอหลอกขายสบู่ใช้แล้วรวย 100 ล้าน

สบู่น้องร้อยล้าน อาจารย์ทิชา อวดอ้างสรรพคุณใช้แล้วรวยร้อยล้าน ล่าสุด หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมผู้เสียหาย บุกโรงพัก สน.โคกคราม แจ้งความดำเนินคดีแล้ว หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมด้วย ทนายไพศาล พาผู้เสียหาย นางพัชรีรัตน์ อายุ 53 ปี เข้าแจ้งความ ที่ สน.โคกคราม เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (24 มี.ค.65) โดยจุดประสงค์ที่ทั้ง 3 คน เข้ามาร้องเรียน เนื่องจากผู้เสียหายได้หลงเชื่อแม่หมอที่รู้จักในชื่อ อาจารย์ทิชา หลกขายสบู่ที่อวดอ้างสรรพคุณ ใช้แล้วจะมีฐานะรวยเป็นระดับร้อยล้าน

เริ่มแรก หญิงผู้เสียหาย เล่าว่า เธอถูกแนะนำว่าให้มาทำบุญ 

แล้วจากนั้นถูกดอาจารย์คนดังกล่าวพูดจาโน้มน้าวให้ซื้อสินค้า อาทิ สบู่สมุนไพรอาบน้ำร้อยล้านกับอาจารย์ อ้างว่าถ้าหากใช้แล้วจะร่ำรวยร้อยล้าน จนผู้เสียหายสูญเงินเกือบล้าน โดยพฤติกรรมของ อาจารย์ทิชา กล่าวอ้างว่าตนเองมีความสามารถพิเศษในการดูดวง เสริมดวง ซึ่งเหยื่อก็ได้ติดต่อขอดูดวงทางโทรศัพท์ ในราคา 999 บาท แล้วรู้สึกว่าหมอดูทำนายแม่น จากนั้นแม่หมอได้หลอกล่อให้สั่งผลิตภัณฑ์ที่ตัวเธอเองเป็นผู้ผลิต และจำหน่าย คือ สบู่น้องร้อยล้าน เมตตามหานิยม เสริมดวงการงาน ครีมกันแดด เมตตามหาเสน่ห์ เสริมโชคลาภ บารมี

เมื่อผู้เสียหายรับผลิตภัณฑ์ สบู่ร้อยล้านมาจำหน่ายต่อ ด้วยการสั่งซื้อสบู่ล็อตแรก จำนวนเงินประมาณ 4 แสนบาท ล็อตที่ 2 สั่งซื้อครีมกันแดด เป็นเงินประมาณ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตามหลังจากได้สินค้ามาแล้ว ปรากฏว่า ขายไม่ดีอย่างที่คิด จึงมีการติดต่อไปที่อาจารย์ทิชาอีกครั้ง อาจารย์จึงได้แนะนำและพาเดินสายทำบุญ เพื่อเป็นการเสริมดวงและทำพิธีบวงสรวง ลักษณะเหมือนพิธีชิงเปรตที่บ้านของตนเอง

อาจารย์ทิชา บอกว่า การแย่งกินของบวงสรวง จะช่วยส่งบุญให้ถึงเทวดา ตนก็เชื่อ สูญเงินไปอีกประมาณ 2 แสนบาท สุดท้ายของก็ยังสต๊อกอยู่เต็มบ้าน ขายไม่ได้ สุดท้ายผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากขายสินค้าไม่ได้ตัวเองนั้นได้ติดต่อขอให้อาจารย์ทิชาช่วยซื้อสินค้าคืน แต่อาจารย์ก็เงียบหายไป พยายามติดต่อก็ไม่ยอมคุยด้วย จึงมาร้องเรียนกับหมอปลา และทนายไพศาล ในที่สุด

หลังจากที่ตำรวจตามล่ามาสองสัปดาห์ในที่สุดก็จับกุม ฉุย รักจันทร์ มือปืนยิงตำรวจดับระหว่างการยิงปะทะที่พัทลุง พร้อมพวกได้แล้ว เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง ได้โพสต์แจ้งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม นายอัฐพล หรือ รวย ใหม่อ่อน และ ฉุย รักจันทร์ หรือ จำรัส รักจันทร์ ชายวัย 44 ปีที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งนาย ในขณะยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ถนนสายสี่แยกบ้านท่านางพรหม-ท่าควาย ม.6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

เบื้องต้นมือปืนเข้าเข้ามากบดานซ่อนตัวในพื้นที่ กทม. หลังก่อนหน้าเจ้าตัวพยายามหลอกล่อให้เจ้าหน้าที่หลงกลว่ายังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวเข้ามายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อทำการสอบปากคำ

ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 9 มี.ค. เกิดเหตุตำรวจกองบังคับการปราบปราม 8 นาย ขับรถฟอร์ด 4 ประตูติดตามจับกุมนายจำรัส รักจันทร์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตามหมายจับของ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง มือปืนตามประกาศจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลำดับ 145

คลิปสุดฮา แกล้งเป็นพ่อค้าเซ็กซ์ทอย คุยจนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลุดขำแถมถามหาสินค้า

รู้ทันแก๊งคอลเซนเตอร์ แกล้งเป็น พ่อค้าเซ็กซ์ทอย คุยจนมิจฉาชีพกลั้นขำไม่ไหว ไม่เตรียมบทไว้ สุดท้ายจบด้วยการแยกย้าย ไม่มีใครโดนหลอก สุดฮา หนุ่มรู้ทันแก๊งคอลเซนเตอร์ แกล้งเป็น พ่อค้าเซ็กซ์ทอย ที่สั่งนำเข้าจากจีน แต่สงสัยพัสดุที่สั่งจะตีกลับเพราะไม่ผ่านศุลกร แก๊งคอลเซนเตอร์ถึงกับฮางานนี้ เพราะหนุ่มรายนี้บอกว่าผมไม่เคยบอกใครมาก่อนว่าผมขาย Sextoy ตอนจบยิ่งฮา ต่างคนต่างไปไม่ถูก เพราะไม่ได้เตรียมบทไว้ แยกย้าย ไม่มีใครโดนหลอกงานนี้

บางช่วงในคลิปจะได้ยินเสียงสนทนาระหวางพี่ผู้ชายร่างท้วมซึ่งพยายามทำทีเป็นพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ต่อสายเข้ามา โดยมิจฉาชีพได้หลอกว่าพัสดุที่ส่งมานั้นถูกตีกลับ ทันใดนั้นชายคนดังกล่าวก็มีการอธิบายถึงสินค้าว่าเป็นอะไร ปกติสั่งดำเนินการยังไง

“ปกติผมจะสั่งจากจีนมานี่มากกว่า ที่เอามาขายในไทย แต่เด๊๊ยวนะจากนี่ไปจีน” ชายแกล้งเป็นพ่อค้าเซ็ฏซ์ทอย กล่าว “ใช่ๆ เพราะปกติ พวกเซ็กซ์ทอยอะไรพวกนี้ผมจะเอามาขายในไทย แล้วผมต้องดำเนินการยังไต่อครับ ผมไม่เคยบอกใครเลยนะครับว่าผมขาย เซ็กซ์ทอย”

จากนั้นเสียงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็กลั้นขำไม่ไหว พูดด้วยน้ำเสียงกึ่งหัวเราะว่า “คุณลูกค้าเขินไหมคะ คุณลูกค้าไม่เคยบอกใคร แต่บอกฉันนี่เขินไหมคะ”

เท่านั้นไม่พอ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ทราบว่าหลงกลเหยื่อ หรือว่าอะไร จึงได้มีการสอบถามถึงสินค้าเกี่ยวกับเซ็กซ์ทอยเพิ่มเติมด้วย “คุณลูกค้าเป็นผู้ชายที่มีกระป๋องขายด้วยหรอคะ พอดีจะซื้อไปฝากเพื่อน” จากนั้นในคลิปก้มีการสนทนากันไปมาอีกเล็กน้อยแต่ทุกยอ่างจบลงด้วยดีซึ่งไม่มีใครที่โดนหลอก แต่ในส่วนของแก๊งมิจฉาชีพก็ต้องคอยดูว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมมดำเนินคดีต่อไปอย่างไร

ทั้งนี้ หากท่านใดได้รับสายแจ้งว่าพัสดุตกค้าง ท่านมีหมายพราะมีชื่อใช้บัญชีในการฟอกเงิน หรืออ้างหน่วยงานรัฐใด เพื่อจะหลอกให้โอนเงิน บอกเลยว่าห้ามโอนเด็ดขาด นะครับ และสำหรับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือหลอกลวงออนไลน์อื่นๆ ท่านสามารถแจ้งความทางออนไลน์ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป